ข้อความต่าง ๆ ที่นำมาลงต่อไปนี้ เป็นความเห็นร่วมตอบโต้ข้อกล่าวหา และให้กำลังใจผมจากสมาชิกของเว็บในสมัยที่ผมถูกใส่ร้ายเริ่มจากปี พ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นช่วงที่เว็บมีสมาชิกและเปิดช่องทางให้เข้ามาสนทนาพูดคุยกัน จึงเป็นอีกข้อมูลหนึ่งสำหรับทุกท่านใช้ในการพิจารณา
สุวัฒน์ เหมอังกูร
23 ตุลาคม 2566
————————————————————————–
27/02/2008 : 13:29:3
ผมรู้สึกเห็นใจกับพี่สุวัฒน์ด้วยนะครับ กับการที่ได้กระทำอะไรลงไปด้วยความบริสุทธิ์ใจและตั้งอยู่ในความดีและแรงศรัทธา แต่กลับถูกคนอื่นนำมากล่าวเท็จให้ร้าย ซึ่งในสังคมสมัยนี้ผมขออนุญาตเปรียบเทียบอย่างนี้ครับ เปรียบเหมือนกับว่าเราทำความดีอะไรสักอย่างแล้วเรารู้สึกว่าไม่บังเกิดผลดีอะไรกับเราอย่างที่เราคิดไว้ ซึ่งแค่นี้ก็ทำให้ตัวเรารู้สึกท้อถอยและน้อยใจตัวเองพออยู่แล้ว แต่กลับกันพอมีคนอื่นกล่าวถึงเรื่องของเราในทางเสียหายกลับถูกคนอื่นที่ได้ฟังเรื่องที่เป็นเท็จเหล่านั้นซึ่งส่วนมากจะเชื่อตามคำพูดของคนที่กล่าวให้ร้าย โลกนี้ช่างประหลาดนัก ความจริงที่ถูกต้องไม่มีใครสนใจและอยากรับรู้เท่าไรนัก กลับกันเรื่องเสียหายที่เป็นเท็จกับเชื่อกันอย่างไม่ต้องหาเหตุผลกับบุคคลที่นำมากล่าวถึง ผมขออนุญาตยกคำกลอนของท่านผู้รู้บางส่วนมาเปรียบเทียบให้เพื่อนสมาชิกได้ลองอ่านแล้วลองนึกเปรียบเทียบกับยุคสังคมสมัยนี้ดูนะครับ
” มืดมิดโพยมย่ำ คนระยำจะครองเมือง กระเบื้องจะฟูเฟื่อง น้ำเต้าน้อยจะลอยจม
***ห่าจะพ่านเพ่น เคยร่มเย็นจะขื่นขม อุบัติการณ์อันระทม จะร้อนรมทุกมุมเมือง
ถูกผิดไม่มีเหลือ เป็นใบ้เบื้อในทุกเรื่อง นครที่รุ่งเรือง จะพานพับในพริบตา
เหล่าปราชญ์จะเดินตรอก ที่สำรอกล้วนขี้ข้า ฝูงเปรตเต็มนครา มันข่มขู่กรรโชกชิง”
สุดท้ายนี้ผมขอเป็นกำลังใจให้กับพี่สุวัฒน์ด้วยอีกคนครับ
09/03/2008 : 18:36:00
สวัสดีครับ พี่สุวัฒน์และพี่ ๆ เพื่อน ๆ สมาชิกเวปราชันดำที่น่ารักทุกท่าน
ที่จริงแล้วผมอยากจะโพสข้อความเข้ามาแสดงความในใจเรื่องที่พี่สุวัฒน์โดนใส่ร้ายกล่าวหา
ว่าทำพระปลอมมานานหลายวันแล้ว แต่ติดที่ผมอยากจะใช้ภาพถ่ายประกอบการแสดงความ
เคารพของผมที่มีต่อพี่สุวัฒน์ จึงรอมาหลายวันมาก วันนี้ผมสามารถโพสรูปวัตถุมงคล
ที่ใช้ประจำตัวลงเวปได้แล้ว จึงขอแสดงความคิดส่วนตัวของผมต่อพี่สุวัฒน์ ซึ่งผมคิดว่า
พี่สุวัฒน์คงจะจำผมได้น่ะครับ
ผมเคยไปพบพี่สุวัฒน์ที่บ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งผมก็ได้รับความกรุณาจากพี่แบ่ง
เหรียญปิดตาพังพะกาฬ รุ่น ๒ ให้บูชา พร้อมพระผงพังพระกาฬ และผ้ายันต์ผืนพ่อผืนแม่
หลังจากนั้นก็ได้รับความกรุณาแบ่งพระปิดตาคันฉ่องสองจักรพรรดิ์ พิมพ์เล็ก รวมถึงผ้ายันต์
เกาะเภตรา ให้อีก นับเป็นความกรุณาต่อผมอย่างแท้จริง ทั้ง ๆ ที่ผมและพี่สุวัฒน์ ไม่เคยรู้จัก
กันหรือมีใครแนะนำให้รู้จักมาก่อนด้วย ผมโทรศัพท์ไปหาพี่สุวัฒน์ เพราะผมพบชื่อพี่ใน
หนังสือ จตุคามรามเทพ ความจริงและความลับที่ไม่เคยมีใครรู้และจำได้ว่าเคยอ่านหนังสือ
พิมพ์ฉบับวันอาทิตย์ (ไม่แน่ใจว่าไทยรัฐหรือคมชัดลึก) หน้าพระเครื่อง ลงว่าบูชาพระผง
พังพระกาฬ ปี ๕๐ ได้ที่พี่สุวัฒน์ และมีเบอร์โทรศัพท์ ผมเลยกลับไปค้นหนังสือพิมพ์ดังกล่าว
ที่ผมเก็บไว้และพบเบอร์โทรศัพท์ จึงได้โทรศัพท์สอบถามไปยังพี่สุวัฒน์เกี่ยวกับพระผง
พังพะกาฬ และเหรียญปิดตาพังพะกาฬ รุ่น ๒ ดังกล่าว
หลังจากนั้นผมได้มีโอกาสกลับไปบ้านที่ จ.จันทบุรี และได้ติดต่อกับพี่สุวัฒน์ขอไปพบที่
บ้านพี่สุวัฒน์ที่ จ.นนทบุรี ซึ่งพี่สุวัฒน์ก็อนุญาต จากวันนั้น จนถึงวันนี้ ผมได้ติดตามเวป
ราชันดำมาโดยตลอด ได้ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ได้อ่านบทความ ความในใจที่พี่ ๆ น้อง ๆ ชาว
เวปราชันดำมีต่อพี่สุวัฒน์ ทั้งในยามปกติและยามที่ถูกใส่ร้าย ซึ่งผมก็มีความคิดเหมือนกับ
พี่ ๆ เพื่อน ๆ ชาวเวปราชันดำ ลูกองค์พ่อทุกท่าน ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องโกหก เป็นความเท็จ
เป็นการใส่ร้ายป้ายสีเพื่อลดเครดิตความน่าเชื่อถือของพี่สุวัฒน์ ซึ่งได้รับความเคารพนับถือ
จากพวกเราชาวเวปราชันดำอย่างสูง เพื่อให้พวกเราที่เป็นลูกองค์พ่อไขว้เขวและรู้สึกไม่ดี
ไม่เชื่อถือพี่สุวัฒน์ หรือมีความคลางแคลงใจในตัวพี่สุวัฒน์ของพวกเรา ผมไม่ทราบว่าบุคคล
ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ที่แท้จริงอย่างไร แต่จากข้อความต่าง ๆ ที่พี่ ๆ น้อง ๆ ชาวเวปราชันดำ
ส่งเข้ามาในเวป จะเห็นได้ว่าผู้ที่ใส่ร้ายพี่สุวัฒน์ไม่ได้รับผลอะไรเลยจากการใส่ร้ายดังกล่าว
กลับเป็นการทำให้พวกเราพี่ ๆน้อง ๆ ชาวเวปราชันดำทุกท่าน รักใคร่กลมเกลียว สมัครสมาน
สามัคคีกันมากขึ้น อีกทั้งเคารพและนับถือพี่สุวัฒน์มากยิ่งขึ้น เห็นได้จากการที่ทุก ๆ ท่านเกิด
ความโกรธแค้นแทนพี่สุวัฒน์และพร้อมที่จะตอบโต้บุคคลที่ให้ข่าวใส่ร้ายพี่สุวัฒน์ของพวกเรา
อย่างเต็มที่ และจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้พวกเรา พี่ ๆ น้อง ๆ ชาวเวปราชันดำ เห็นอกเห็น
ใจในตัวพี่สุวัฒน์ที่ให้ความกรุณากับพวกเรามาโดยตลอดต้องถูกใส่ร้ายอย่างหน้าไม่อาย ทำ
ให้พวกเราเกิดความเคารพนับถือในตัวพี่สุวัฒน์มากขึ้นไปกว่าเดิมอีก
ผมก็เป็นคนหนึ่งครับที่ไม่เคยเชื่อข่าวดังกล่าวเลย และไม่เคยมีความสงสัยในตัวพี่สุวัฒ
น์ และยังให้ความเคารพและนับถือพี่สุวัฒน์ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าผมจะไม่ได้โทรศัพท์ไปพูด
คุยกับพี่สุวัฒน์ แต่ผมขอแสดงความเคารพและนับถือดังกล่าวผ่านภาพวัตถุมงคลที่ผมใช้ติด
ตัวทุกวัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมได้รับความกรุณามาจากพี่สุวัฒน์ (ยกเว้นยามเฝ้าแผ่นดินสีแดง ซึ่ง
ผมไปบูชามาจากมูลนิธิยาม ฯ ก่อนแล้วครับ)
ขอบคุณครับ
เอ.
09/03/2008 : 23:37:15
สวัสดีครับพี่เอ และเพื่อนสมาชิก
พี่เออธิบายความรู้สึกจากใจที่จริงใจและตรงไปตรงมาดีครับ
วงการวัตถุมงคลเป็นวงการหนึ่งครับที่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะมีกลุ่มของผู้ที่มีความศรัทธาพร้อมจะควักเงินซื้อหามาบูชาติดตัว ถึงแม้ว่าท่านสุวัฒน์จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร ไม่โจมตีให้ร้ายใคร ไม่ไปเปิดศูนย์หรือเสนอขายแข่งกับใคร ไม่ขัดผลประโยชน์ใครเลยด้วยวิธีใดๆก็ตาม
แต่การที่ท่านสุวัฒน์มีเจตนาที่ดี เปิดเวปให้ความรู้ผู้ที่มีความศรัทธา จึงเป็นผลให้มีผู้ที่ศรัทธาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ(หลายคนคงยอมรับกันนะครับว่าความรู้และความศรัทธาเกิดจากเวปนี้) คนที่ศรัทธาอยู่แล้วก็มีความรู้มากขึ้น ศรัทธาเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ จากความรู้ที่ท่านสุวัฒน์นำมาให้ จากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ความจริงแล้วผมคิดว่าเป็นผลดีกับทุกฝ่าย ถ้าพวกมันใช้สติคิดดูดีดี ก็จะเป็นประโยชน์กับพวกมันด้วย
แต่พวกมันจิตใจคับแคบ ไม่เปิดใจให้กว้าง เมื่อมีคนเคารพ นับถือ เชื่อถือท่านสุวัฒน์มากขึ้น บารมีมากขึ้นเรื่อยๆ พวกมันอาจคิดว่าพวกมันจะเสียผลประโยชน์ จากการที่มีคนเชื่อถือท่านสุวัฒน์มากที่สุด มันคงเข้าใจว่าท่านสุวัฒน์ขายพระรุ่นใหม่ๆได้มาก จึงเกิดอิจฉา (ท่านสุวัฒน์อธิบายแล้วว่าท่านสุวัฒน์ได้จากพระรุ่นเก่าๆทั้งนั้น ของใหม่ๆขายได้น้อยมาก โดยเฉพาะคันฉ่องขายแค่ปีละไม่กี่องค์) พวกมันจึงได้ใช้วิธีโง่ๆ งี่เง่าๆ สิ้นคิด โดยการให้ร้ายป้ายสี ท่านสุวัฒน์เพื่อลดเครดิตความน่าเชื่อถือลง จนทำให้คนที่ไม่มีข้อมูลที่ดีรู้สึกลังเลในพระบางรุ่น ทั้งๆที่ท่านพ่อทำพิธีปลุกเสกทั้งนั้น และประสบการณ์ก็มากมายจนทำให้คนต้องซื้อหากันด้วยราคาที่แพงก็ยอมขอให้ได้บูชา
การที่พวกมันใจแคบ แค่ต้องการทำลายท่านสุวัฒน์คนเดียว พวกมันยอมเอาพระที่ท่านพ่อปลุกเสกมาเดิมพัน ทำให้คนลังเลวัตถุมงคลท่านพ่อในบางรุ่น ขาดความมั่นใจในการบูชา ผมคงไม่ต้องบอกนะครับว่าต่อไปพวกมันจะได้รับผลเช่นไร ทุกวันนี้พวกมันคงร้อนๆ หนาวๆกันบ้างแล้วละครับ
พวกเราล้วนเป็นผู้มีสติปัญญา แค่ข้อมูลงี่เง่า ไม่เป็นเหตุเป็นผล ฟังไปอ่านไปก็ตลกสิ้นดี ไม่รู้มันเอาอะไรคิด คนที่มีสติปัญญาเขาไม่เชื่อหรอกครับ
ผมยอมรับ นับถือเพื่อนสมาชิกเราทุกคนจริงๆ ในสติปัญญาและความมีเหตุผล แต่ละคนก็ไม่เคยขาดปิดตาคันฉ่องกันเลย คนที่ยังไม่มีก็พยายามเก็บเงินบูชากันอยู่ นี่สิครับลูกพ่อตัวจริง ต้องมั่นคงในท่านพ่ออย่างนี้สิครับ
ตอนนี้สิ่งที่พวกมันทำกันกลับเป็นผลดีกับท่านสุวัฒน์ซะอีก เคยได้ยินใหมครับ คำที่เขาพูดกันว่า มารไม่มีบารมีไม่เกิดงัยครับ ความจริงย่อมเป็นความจริงเสมอ ของแท้ ยังไงก็เป็นของแท้วันยังค่ำแหละครับ
12/08/2008 : 00:24:12
ขอเป็นกำลังใจให้พี่สุวัฒน์อีกเสียงครับ
ศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ของพี่เหมือนเพชรแท้ ย่อมเปล่งแสงพลังบริสุทธิ์ ออกมา น้องๆก็ได้พึ่งพาแสงสว่างด้วย พวกสาดโคลนตรมใส่ ก็จะได้รับผลกรรมนั้นสนองคืนไป ผมเชื่อ..
ขอบารมีองค์พ่อคุ้มครองพี่ตลอดไป
ตู่ ตาก
16/08/2008 : 12:22:49
ถูกต้องแล้วครับ
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่พี่สุวัฒน์ เมตตาผมอยู่ตลอดเวลา
ทั้งอบรมสั่งสอน ผมได้ความรู้ วิธีคิด จากพี่สุวัฒน์มามากมาย
อย่างที่โบราณ ท่านว่าไว้
คบคนพาล พาลพาไปหาผิด
คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล
^ ^
ฑัมพร แต้ศิริเวชช์
– 23/07/2010 : 17:58:53
คำถามของคุณต้อม post ในคุยข่าวทั่วไป กระทู้ที่ 55 วันที่ 22/07/10
ประวัติของผ้ายันต์ผืนนี้ มีความเป็นมาอย่างไรครับ
– 23/07/2010 : 17:58:53
คำถามของคุณต้อม post ในคุยข่าวทั่วไป กระทู้ที่ 55 วันที่ 22/07/10
ประวัติของผ้ายันต์ผืนนี้ มีความเป็นมาอย่างไรครับ
คุณต้อมครับ
ผ้ายันต์ผืนนี้ มีคนเล่าให้ผมฟังว่า ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช ออกแบบให้ลูกศิษย์ของพ่อท่านกล่ำ วัดศาลาบางปู นำไปสร้างเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดของพ่อท่านกล่ำ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของท่านขุน ฯ ในปี พ.ศ.2526
แสดงว่ารูปแบบราหูแปดตัว มีมาก่อนของศาลหลักเมือง
และผ้ายันต์ผืนนี้ นี่เอง ที่ทำให้ผมหมดศรัทธา ความเคารพนับถือคนบางคน เพราะอ้างว่าเป็นคนคิดขึ้นมา และเรื่องนี้ก็ทำให้ย้อนคิด และได้ความกระจ่างในอีกหลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมา ต้องมีเวลาถึงจะเล่ารายละเอียดได้เพราะมันมากเหลือเกิน ตอนนี้อยากจะพูดแต่จุดที่สำคัญว่า ถ้าทำเรื่องอย่างนี้ได้ เรื่องอื่น ๆ ก็คงไม่ยาก
อะไรที่เป็นของดี ของสวยงาม เขาเอาเป็นความคิดของตัวเองหมด อะไรที่ไม่ดีก็บอกลูกน้องทำ
ไม่เคยให้เกียรติลูกน้อง หรือคนอื่นเลย แต่กลับเรียกร้องให้คนอื่นให้เกียรติตัวเอง อย่างนี้ก็มีด้วย
ในวงการศิลปและวรรณกรรม เขาถือมากสำหรับคนที่ขโมยความคิดของคนอื่นเป็นของตัวเอง รวมทั้งการลอกเลียนบทประพันธ์
รุ่นที่ตนเองทำกับคนสนิท ทั้งหาช่างเอง ทั้งอนุมัติแบบเอง ทำไมไม่นำมาโชว์ มาอธิบายความสวยงามบ้าง ก็รุ่นปี 46 อย่างไรละ รุ่นนี้ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อยครับ เพื่อนสมาชิก
คุณรังสิต ทราบไหมครับ ว่าใครจะแฉใคร ใครจะฟ้องใคร
คุณบีครับ ไม่มียาครับ เพราะกินยาอะไรก็ไม่หาย
———————————————————————————————————————————————–
23/07/2010 : 23:29:35
ต้องขออภัยเพื่อนสมาชิก ที่ระยะนี้มีเรื่องราวที่น่าจะเรียกว่ารกสมอง
แต่ทำไงได้ล่ะครับ ก็มันมีคนเอาขยะมาทิ้งหน้าบ้าน พวกเราก็ต้องช่วย
กันเก็บกวาดทำความสะอาด
24/07/2010 : 06:49:41
ความเห็นของคุณรังสิต
ผมว่าไม่ใช่มีคนเอาขยะมาทิ้งหน้าบ้านครับ
ต้องบอกว่า”มีคนดูดส้วมจากบ้านตัวเองแล้วเอาขี้มาทิ้งหน้าบ้านคนอื่นถึงจะถูก”
แถมมายืนด่าหน้าบ้านอีก ขี้หน้าบ้านแกก็ของแกไม่ใช่ของ
ต้องขออภัยถ้าวาจาใดไม่สุภาพ เพราะพ่อผมสอนไม่ให้พูดคำหยาบ
โอกาสหน้าพบกันใหม่ สวัสดีครับ |
๙๙๙ผมจำเป็นต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพราะคนมันไม่มีสัจจะ๙๙๙ rangsit-b1@hotmail.com |
Edited by – rangsitb on 24/07/2010 06:51:46
อยากจะเรียนถามคุณสุวัฒน์
วันก่อนอ่านบทความที่กล่าวหาใสร้ายพวกเรา ในweb แห่งหนึ่ง
ผมจำได้ว่าพวกเราเริ่มคิดจะทำพระบูชา โดยคุณสุวัฒน์เริ่มทำหุ่นเทียนตั้งแต่ประมาณเดือน
พย.2552 มาเสร็จเอาเดือน เม.ย.2553 ช่วงแรกเริ่มพวกเราพบกันคุยกันถึงเรื่องนี้ก็มีแค่ 5 คน มี คุณสุวัฒน์ ช้าง พี่ต้อม บี และผม โดยคุณสุวัฒน์ออกแบบและควบคุมการปั้นหุ่นเทียน ที่พี่ต้อมบอก ว่าพี่เค้ามาตรฐานสูงนั่นละ แต่มาวันหนึ่งมีคนเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง คือ นายมานพ เกิดอุ่ม เพียงเขามาขอร่วมทำบุญทำกุศล 1 องค์เท่านั้น ก็จะมาเหมารวมเป็นพวกเดียวกัน เขาเป็นพวกเดียวกันกับลุงครับใครๆก็รู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง ซึ่งไม่รู้คนเขียนไปเอาข้อมูลมาจากไหน หรือ สร้างเรื่องขึ้นมาด่าพวกเราเองทำให้ผม งง กับคนเขียนอยู่เหมือนกันใครรู้ช่วยตอบหน่อย และอีกอย่างเขามีสิทธิ์ หรือ ถือสิทธิ์อะไรมาด่าพวกเรา ไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นงง…งงง ………….
24/07/2010 : 22:24:09
ความเห็นของคุณหนมต้ม
5555+
ผมได้ข่าวมาว่า สายตะวันออกขุดบ่อล่อปลาเอาไว้
มีคนกระโดด งับเหยื่อเข้าไปเต็มๆ (แบบโง่ๆด้วย)
สายตะวันออกเค้าขำกันทั้งจังหวัด…
– 25/07/2010 : 07:08:21
กระทู้ ความเห็นของคุณบี
จุ๊… . พี่ต้อม… จุ๊ จุ๊… . ชู๊วสสสส์ … . เดี๋ยว โง่ส์ ตื่น!!! ให้เค้าหลง ฉลาด อยู่แต่ในบ้านโยคีของเค้าไปแบบนี้แหละเหมาะกับเค้าแล้ว… . .
แล้วนายมานพ เกิดอุ่ม มามีส่วนร่วมการสร้าง องค์จตุคามรามเทพ ของเว๊บนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ทราบ??? เพี้ยนไม่พอ มั่ว ได้อีก… . .
๒ เรื่อง นี้แหละที่แสดงชี้ชัดๆๆๆให้เห้นได้เลยว่า ลุงเพี้ยนมั่ว ไม่ได้เป็นคน หูเบา อย่างที่ลุงได้มั่นใจประกาศออกมาจริงๆ. ผมเข้าใจผิดไปเอง… . หู ลุงไม่ได้เบาหรอก ไอ้ที่เบาหนะ หัวลุง ทั้งหัว เลย… . มีแต่ อากาศ ไม่มี มัน เลย… . ถ้าหัวไม่กรวง มีสติ คิดได้ ไม่รอฟังคนคลานมาป้อนข้อมูลใส่ปาก อย่างเดียว ลุงจะไป งับ เหยื่ออย่างจังนี้เข้าได้อย่างไร… . คิดสิ คิดสิ…
วันนี้เพิ่งรู้ความหมายที่แท้จริง เคยได้ยินมานานแล้วเหมือนกัน “แก่เพราะอยู่นาน” เป็นแบบนี้นี่เอง. เฮ้ออ… .
ท่านผู้อ่านทั่วไปครับ บีต้องขออภัยท่านทั้งหลายจริงๆ ที่ช่วงนี้หน้ากระดานมีแต่ข้อความที่ไม่ค่อย reader friendly(ไม่รู้จะแปลยังไง) ซักเท่าไหร่… . ใจเย็นกับพวกเรานิดนึง นะครับ.
สองปีกว่าๆมาแล้วที่พวกเราพยายามที่จะหลีกเลี่ยง การปะทะวาจา ปะทะอารมณ์ กับอีกฝ่ายนึงมาโดยตลอด… . แต่เค้าเล่นไม่เลิกจริงๆ ถูกกระทำการ แขวะ ด่ากระทบ ใส่ร้ายป้ายสี โดยไม่มีหลักฐานใดๆมาแสดงให้เห้น มาโดยตลอด… .
คุณสุวัฒน์ ก็บอกเสมอว่าไม่ต้องไปตอบโต้อะไร แค่ชี้แจงกลับไปก็พอ เป็นแบบนี้มาโดยตลอด. ท่านผู้อ่านที่ติดตามเว๊บนี้มาตั้งแต่ต้น จะพบว่าบ่อยครั้ง ถ้ามีความคิดเห้นที่อาจจะไปกระทบกับอีกฝ่ายนึง คุณสุวัฒน์จะลบความคิดเห้นนั้นออกไปเลย. คุณสุวัฒน์เองก็พยายามหลีกเลี่ยงการปะทะ.
การที่ถูกใส่ความ ใส่ร้ายป้ายสีให้เป็นที่เกลียดชังของผู้อื่น ถูกสร้างบทบริภาษ ด้วย ความเท็จ ให้… . ใครไม่โดนกับตัวเอง ไม่รู้รส หรอกครับ.
ยอมรับว่า บีเองไม่ได้เป็นคนโดน แต่ เมื่อสองปีกว่าๆที่แล้ว บีได้เห้น ผู้ชาย คนนึงที่โดนการ ฆ่าชื่อ เพื่อให้ตายจากสังคมทั้งเป็น บีได้เห้น ความเจ็บช้ำในใจ ทรมานใจ ความสับสนที่ทำไมถึงโดนกระทำถึงขนาดนี้ …. . ความเจ็บปวดทั้งหมดทั้งปวง ได้ถูก ยัด ใส่ ผู้ชาย คนนี้อย่างใจร้าย เลือดเย็น เหลือเกิน. ผู้ชาย คนนี้ต้องใช้เวลาเป็น ปีๆ กว่าจะลุกกลับยืนขึ้นมาได้ จนทุกวันนี้ ผู้ชาย คนนี้จริงๆเค้าได้ อโหสิ และ ก้าวข้าม คนที่มอบความเจ็บช้ำให้แก่เค้าไปแล้ว. แต่คนที่เคยมอบความเจ็บปวดให้เค้าก็ยังไม่หน่ำใจ หรือ อย่างไร หรือ เห้นว่าการที่ ผู้ชาย คนนี้ไม่ โต้ตอบ หลีกเลี่ยงการปะทะมาโดยตลอด ก็ย่ามใจ อยากจะสร้างความเจ็บปวดให้เค้าไม่เลิก.
ลุง ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วนะครับ ลุง…. . รับทราบแล้วครับว่ายังไง ลุง ก็จะไม่เลิก
สมาชิกเว๊บราชันดำไม่ชอบการมีเรื่องกับใครหรือฝ่ายไหนเลยจริงๆ. เราแค่อยากจะอยู่ส่วนของเรา แต่อีกฝ่ายทำไมจะต้องจ้องทำร้ายเรา ไม่ให้เรามีที่ยืน หรือ อยากยึดทั้งหมดไว้เป็นของ ลุง เอง.
ณ. เวลานี้ พวกผม จะไม่หลีกเลี่ยงการปะทะ หรือ การโต้ตอบ อีกต่อไปแล้ว. ขอแจ้งให้ทราบไว้ ณ. ที่นี้เลย. และขอรับรอง…. . พวกผมจะไม่ทำให้ ลุง ต้องผิดหว้งอย่างแน่นอน. กลับกัน ผมเองก็อยากขอให้ ลุง อย่าทำให้พวกผมผิดหวังเช่นกัน. ขอหลักฐาน เนื้อๆ เน้นๆ นั่งเทียนเขียนคนเดียวแบบที่ผ่านมาไม่เอา พวกผมหาวเบื่อกันหมดแล้ว ขอ หลักฐาน หลักพล่อย ไม่เอา นะ.
..บทความที่จะออกใหม่อีก ๒ตอน ก็ค่อยๆเขียน ค่อยๆแก้ ยังทันนะ รอได้ แต่อย่างที่เคยว่าไว้… ใส่ ๒คำ ” ความ จริง ” นี้ลงไปด้วย. อย่าต้องให้เสีย เวลา ที่คลิ๊กเข้าไปอ่าน. . โตๆกันแล้ว
25/07/2010 : 19:43:31
คุณรังสิตครับ
คงไม่ได้กินยาธาตุก่อนนอน ก็เลยฝันไปว่า คุณมานพ เกิดอุ่ม มาร่วมทำพระกับพวกเรา มีหลายคนบอกผมว่า สายตะวันออกมาช่วยจองวัตถุมงคลเพื่อให้กำลังใจพวกเรา ( ผมไม่ได้สนใจไปอ่าน มีแต่คนมาเล่าให้ฟัง )
พึ่งเคยได้ยินนี่แหละว่า มีการจองวัตถุมงคลเพื่อให้กำลังใจคนสร้าง คิดเอง เออเอง จนหลุดโลกไปแล้ว
ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็แสดงว่าพวกเราโชคดี เพราะมีคนให้กำลังใจกันทั่วประเทศ ไม่เฉพาะแต่ภาคตะวันออกเท่านั้น
คุณรังสิตพูดถูก มีคนดูดส้วมที่บ้านตัวเองมาทิ้งที่หน้าบ้านเรา
25/07/2010 : 19:51:13
ขอต่อจากคุณบี ครับ
ฆ่าตัวไม่ได้ ให้ฆ่าชื่อ ผมยังจำคำพูดนี้ของคุณบีได้อย่างแม่นยำ เป็นคำจำกัดความของจีน ที่อธิบายถึงวิธีการทำลายคนอื่น อย่างโหด***ไร้ความปราณี
คนจีน ถือเป็นสุดยอดในเรื่องของอุทธาหรณ์ หรือคำพูดสอนใจ
เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมได้อ่านหนังสือเรื่อง สามก๊ก ฉบับคนขายชาติ เป็นฉบับที่มีการวิเคราะห์อย่างละเอียด เขาบรรยายเรื่องของขันที ได้น่าสนใจไม่น้อย
เขาบอกว่า อาวุธร้ายกาจของขันที มี 5 อย่าง 1 ในนั้น คือ การใช้ปาก ( อย่าคิดมาก ) ขันทีจะมีความสามารถในการใส่ร้ายป้ายสี ขุนนาง เสนาบดี ที่มีความจงรักภักดี ซื่อสัตย์ต่อราชบัลลังก์ ไม่ว่าจะใหญ่โตแค่ไหน ได้ตายเพราะปากของขันทีมานักต่อนักแล้ว เรื่องนี้ปรากฏในประวัติศาสตร์ มาทุกยุคทุกสมัยของประเทศจีน
ในยุคปัจจุบัน การใส่ร้ายป้ายสี โจมตีเพื่อทำลายคนอื่น
เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น ก็ยังมีอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
พวกที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับ ขันที ในอดีต
– 26/07/2010 : 16:57:18
กระทู้ของคุณรังสิต
ขันที แปลว่า ผู้ชายไม่มีรังไข่ และ มีไข่ก็ไม่เหลือ
อัปเปหิ หมายถึงขับไล่ ผลักไสให้ออกไป
อัปเปหิ มาจากคำว่า อเปหิ ซึ่งแปลว่า จงออกไป จงไปให้พัน หมายถึง ผลักไล่ไสส่งไปให้พ้น
ผมได้ยินมาว่า คุณสุวัฒน์ถูกอัปเปหิ จึงอยากให้ช่วยอธิบายหน่อยครับ
27/07/2010 : 12:27:06
ความเจ็บปวดทั้งหมดทั้งปวง ได้ถูก ยัด ใส่ ผู้ชาย คนนี้อย่างใจร้าย เลือดเย็น เหลือเกิน. ผู้ชาย คนนี้ต้องใช้เวลาเป็น ปีๆ กว่าจะลุกกลับยืนขึ้นมาได้ จนทุกวันนี้ ผู้ชาย คนนี้จริงๆเค้าได้ อโหสิ และ ก้าวข้าม คนที่มอบความเจ็บช้ำให้แก่เค้าไปแล้ว”ที่เจ็บปวดมากอีกอย่างคือ คนที่เค้าให้ความเคารพนับถือเปรียบเสมือนเทพยดาฆ่าเขา
” ” เข้าใจผิดคิดว่าหลายคนเป็นคนดี
28/07/2010 : 19:22:17
คุณรังสิตครับ
คำว่าอัปเปหิ เป็นการใช้เพื่อจงใจจะให้ดูไม่ดี ในสายตาของคนทั่วไป เพราะคำนี้ ใช้กับคนไม่ดี แต่ถ้าเป็นการอัปเปหิผมออกจากะลาครอบ ก็พอยอมรับได้
โดยส่วนตัวผม เชื่อมั่นจริง ๆ เพราะมีสัญญาณหลายอย่างบ่งบอกว่าเป็นเพราะท่านพ่อต่างหาก ที่ดลบันดาล และเปิดกะลาให้ผมออกมา
และเมื่อผมออกมาแล้ว ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากวงการพระเครื่อง และวงการจตุคามภายนอก ก็เห็นอยู่ว่า ผมและพวกเรายืนหยัดอยู่ในวงการนี้อย่างมั่นคงและมีเกียรติ ผู้คนกล้าพูด กล้าคุยกับผม โดยไม่ต้องสงวนปาก สงวนคำ เหมือนกับตอนที่ผมอยู่ในกะลา
พวกเรายืนอยู่ในวงการนี้ โดยไม่อายฟ้าดิน เพราะเราไม่ได้ทำผิด ทำเลว หลอกลวงใคร ตรงกันข้าม พวกเราต่างช่วยกันประคับประคอง พวกเราต่างหาก ที่ยังซื้อไม่เลิก และก็มีบางพวกเช่นกันที่ขายไม่เลิก แล้วเที่ยวด่าคนอื่นว่าไอ้พวกพุทธพาณิชย์
ปีที่แล้ว ผมซื้อวัตถุมงคลของท่านพ่อ ไปเกือบ 5 ล้านบาท พวกเราซื้อรวม ๆ กันแล้วก็อีกหลายล้านบาท วัตถุมงคลที่อยู่ในห้องพระแถว ๆ สีลม มาอยู่ในห้องพระบ้านผมตั้งหลายองค์ แล้วแบบนี้ ผมหายไปจากวงการตั้งแต่เมื่อไร
ลงไปนคร ฯ ทีไร ก็มีแต่คนอยากเจอ ไม่เชื่อไปถามคุณจุ๋ม ท่าโพธิ์ ดูก็ได้ พอผมลงไปกับพวกเราที่ไร ก็มีโทรศัพท์หาคุณจุ๋ม ขอคิวเจอ
สองครั้งหลังที่ลงไป คือเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2553 คุณต้อมก็ได้ลูกกลม 30 มาหนึ่งองค์ คุณบี ก็ได้ลอยองค์ 32 มา 3 องค์ ผมก็ยังได้เสื้อยันต์มาหนึ่งตัว
และเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2553 ที่ผ่านมา คุณต้อมก็ได้ 30 มา 1 องค์ พระพุทธสิหิงค์ 1 องค์ ผมก็ได้ลูกกลม 30 มา 1 องค์ โดยเฉพาะของผมได้มาอย่างไม่คาดฝัน เป็นเนื้อหายากที่อยากได้ และราคาสบายใจ ที่สำคัญคือ ผมคิดว่าท่านพ่อบันดาล เพราะก่อนออกจากบ้านไปขึ้นเครื่อง ผมเข้าไปกราบท่านพ่อขอว่า ไปเที่ยวนี้ ขอให้ธุระการสร้างองค์ท่านพ่อ และมีด ผ่านไปด้วยความราบรื่น และขอให้ได้ของดีกลับมาด้วย ปรากฏว่าท่านพ่อบันดาลให้ทุกอย่าง ยังได้ของดีอย่างอื่นมาอีกเพียบ
ผมจึงเชื่อโดยสนิทใจว่า สิ่งที่คนมาข่มขู่ว่า ท่านพ่อจะลงโทษคนที่มาสร้างวัตถุมงคลท่านนั้น ไม่จริง ออกมาขู่ มาอ้างความเป็นเจ้าของ เพื่อจะหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองเพียงคนเดียว
@@@@@@@@@@@@@@
29/07/2010 : 22:38:05
ตอบกระทู้หน้า 58
การที่พวกเราถูกกล่าวหาว่าเป็นพุทธพาณิชย์ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยลงขายของเป็นเรื่องเป็นราว ทีขายก็มีรายการช่วยวัด เพียงครั้ง สองครั้งเท่านั้น
คุณรังสิต ครับ เรื่องนี้เป็นปรกติวิสัย สันดานของคน ที่พยายามด่าคนอื่น เพื่อให้ตัวเองดูดี พยายามที่จะตั้งวงการของตัวเองขึ้นมา ซึ่งก็ไม่มีใคราว่าอะไรอยู่แล้ว ถ้าทำมาค้าขายตามปกติไป
แต่นี่ เที่ยวไปด่าคนโน้น ด่าคนนี้ ด่าวงการพระที่พวกเรามีส่วนอยู่ด้วย คำหนึ่งก็ไอ้พวกพุทธพาณิชย์ สองคำก็ไอ้พวกพุทธพาณิชย์ โดยไม่ได้มองพฤติกรรมของตัวเองเลยว่า ที่ทำเวลานี้ไม่ต่างอะไรกับพวกเขา บางทียังหนักกว่าเสียอีก แบบนี้คงต้องเรียกอย่างที่คุณช้างว่า ซึ่งมองดูแล้ว น่าอนาถแท้ กลุ่มคนแบบนี้ ซึ่งก็มีไม่กี่คนหรอก พวกเราต้องอย่าไปสนใจ อย่าไปเสวนาด้วย กันออกไปจากวงการพุทธพาณิชย์ ของพวกเรา
ที่คุณช้าง กล่าวถึงเรื่อง ปัญญา เพราะมีคนปรามาสว่า คนอย่างผม จะเอาปัญญา ที่ไหนไปทำวัตถุมงคลท่านพ่อ
คุณช้าง ครับ อย่างที่คุณช้างว่าผมมีปัญญาออกแบบ จริง ๆ ผมก็ออกแบบมาหลายรุ่น ที่พูดนี่ไม่ได้แอบอ้าง อะไรทั้งสิ้น แต่กลับมีคนปัญญาดี มาสวมรอยกล่าวอ้างว่าตัวเองเป็นคนทำ อย่างนี้ มันไม่ทุเรศยิ่งกว่าคนไม่มีปัญญาหรือ
ผมยอมรับว่า ไม่มีปัญญาทำให้วัตถุมงคลของท่านพ่อ ศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่ผมออกแบบ และ สร้างได้ และขอให้คนที่ทำเป็นในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ มาทำให้ได้ โดยผมและพวกเรา ใช้จิตเจตนาดีที่จะทำบุญทำกุศล เป็นเงื่อนไขตัวตั้ง เพื่อขอความเมตตาจากองค์ท่านพ่อ มาประสิทธิ์ประสาทให้ ไม่เหมือนคนบางคนที่อ้างว่ามีปัญญา แต่ไปเอาของที่เขาทำไว้แล้ว มาผสมของใหม่เยอะ ๆ แล้วกล่าวอ้างว่าเป็นรุ่นเก่า
แบบนี้แหละครับ ท่านสาธุชน ที่เขาเรียกว่า ทำเสริม อย่างชัดเจน
แบบนี้แหละครับ ที่เขาเรียกต้มตุ๋น หลอกลวง คนที่ไม่รู้ก็ตกเป็นเหยื่อ คนรุ่นหลังต่อ ๆ ไปไม่รู้ ก็เข้าใจผิด
เป็นการทำแบบหน้าด้าน หลอกลวงซึ่ง ๆ หน้า เขาเรียกว่า ต้มตุ๋นกลางแดด
รู้ไหมครับ คนในวงการ ที่ถูกด่าว่า ไอ้พวกพุทธพาณิชย์ ไอ้พวกจัญ…. เขายังไม่ทำกันเลย
แบบนี้แหละครับ ที่ทำลายเกียรติภูมิขององค์ท่านพ่ออย่างแท้จริง
แล้วพวกที่ทำแบบนี้ เราควรจะเรียกว่าอะไรดีครับ ….คุณช้าง
คุณต้อมครับ
ผ้ายันต์ผืนนี้ มีคนเล่าให้ผมฟังว่า ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช ออกแบบให้ลูกศิษย์ของพ่อท่านกล่ำ วัดศาลาบางปู นำไปสร้างเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดของพ่อท่านกล่ำ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของท่านขุน ฯ ในปี พ.ศ.2526
แสดงว่ารูปแบบราหูแปดตัว มีมาก่อนของศาลหลักเมือง
และผ้ายันต์ผืนนี้ นี่เอง ที่ทำให้ผมหมดศรัทธา ความเคารพนับถือคนบางคน เพราะอ้างว่าเป็นคนคิดขึ้นมา และเรื่องนี้ก็ทำให้ย้อนคิด และได้ความกระจ่างในอีกหลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมา ต้องมีเวลาถึงจะเล่ารายละเอียดได้เพราะมันมากเหลือเกิน ตอนนี้อยากจะพูดแต่จุดที่สำคัญว่า ถ้าทำเรื่องอย่างนี้ได้ เรื่องอื่น ๆ ก็คงไม่ยาก
อะไรที่เป็นของดี ของสวยงาม เขาเอาเป็นความคิดของตัวเองหมด อะไรที่ไม่ดีก็บอกลูกน้องทำ
ไม่เคยให้เกียรติลูกน้อง หรือคนอื่นเลย แต่กลับเรียกร้องให้คนอื่นให้เกียรติตัวเอง อย่างนี้ก็มีด้วย
ในวงการศิลปและวรรณกรรม เขาถือมากสำหรับคนที่ขโมยความคิดของคนอื่นเป็นของตัวเอง รวมทั้งการลอกเลียนบทประพันธ์
รุ่นที่ตนเองทำกับคนสนิท ทั้งหาช่างเอง ทั้งอนุมัติแบบเอง ทำไมไม่นำมาโชว์ มาอธิบายความสวยงามบ้าง ก็รุ่นปี 46 อย่างไรละ รุ่นนี้ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อยครับ เพื่อนสมาชิก
คุณรังสิต ทราบไหมครับ ว่าใครจะแฉใคร ใครจะฟ้องใคร
คุณบีครับ ไม่มียาครับ เพราะกินยาอะไรก็ไม่หาย
———————————————————————————————————————————————–
23/07/2010 : 23:29:35
ต้องขออภัยเพื่อนสมาชิก ที่ระยะนี้มีเรื่องราวที่น่าจะเรียกว่ารกสมอง
แต่ทำไงได้ล่ะครับ ก็มันมีคนเอาขยะมาทิ้งหน้าบ้าน พวกเราก็ต้องช่วย
กันเก็บกวาดทำความสะอาด
24/07/2010 : 06:49:41
ความเห็นของคุณรังสิต
ผมว่าไม่ใช่มีคนเอาขยะมาทิ้งหน้าบ้านครับ
ต้องบอกว่า”มีคนดูดส้วมจากบ้านตัวเองแล้วเอาขี้มาทิ้งหน้าบ้านคนอื่นถึงจะถูก”
แถมมายืนด่าหน้าบ้านอีก ขี้หน้าบ้านแกก็ของแกไม่ใช่ของ
ต้องขออภัยถ้าวาจาใดไม่สุภาพ เพราะพ่อผมสอนไม่ให้พูดคำหยาบ
โอกาสหน้าพบกันใหม่ สวัสดีครับ |
๙๙๙ผมจำเป็นต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพราะคนมันไม่มีสัจจะ๙๙๙ rangsit-b1@hotmail.com |
Edited by – rangsitb on 24/07/2010 06:51:46
อยากจะเรียนถามคุณสุวัฒน์
วันก่อนอ่านบทความที่กล่าวหาใสร้ายพวกเรา ในweb แห่งหนึ่ง
ผมจำได้ว่าพวกเราเริ่มคิดจะทำพระบูชา โดยคุณสุวัฒน์เริ่มทำหุ่นเทียนตั้งแต่ประมาณเดือน
พย.2552 มาเสร็จเอาเดือน เม.ย.2553 ช่วงแรกเริ่มพวกเราพบกันคุยกันถึงเรื่องนี้ก็มีแค่ 5 คน มี คุณสุวัฒน์ ช้าง พี่ต้อม บี และผม โดยคุณสุวัฒน์ออกแบบและควบคุมการปั้นหุ่นเทียน ที่พี่ต้อมบอก ว่าพี่เค้ามาตรฐานสูงนั่นละ แต่มาวันหนึ่งมีคนเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง คือ นายมานพ เกิดอุ่ม เพียงเขามาขอร่วมทำบุญทำกุศล 1 องค์เท่านั้น ก็จะมาเหมารวมเป็นพวกเดียวกัน เขาเป็นพวกเดียวกันกับลุงครับใครๆก็รู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง ซึ่งไม่รู้คนเขียนไปเอาข้อมูลมาจากไหน หรือ สร้างเรื่องขึ้นมาด่าพวกเราเองทำให้ผม งง กับคนเขียนอยู่เหมือนกันใครรู้ช่วยตอบหน่อย และอีกอย่างเขามีสิทธิ์ หรือ ถือสิทธิ์อะไรมาด่าพวกเรา ไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นงง…งงง ………….
24/07/2010 : 22:24:09
ความเห็นของคุณหนมต้ม
5555+
ผมได้ข่าวมาว่า สายตะวันออกขุดบ่อล่อปลาเอาไว้
มีคนกระโดด งับเหยื่อเข้าไปเต็มๆ (แบบโง่ๆด้วย)
สายตะวันออกเค้าขำกันทั้งจังหวัด…
– 25/07/2010 : 07:08:21
กระทู้ ความเห็นของคุณบี
จุ๊… . พี่ต้อม… จุ๊ จุ๊… . ชู๊วสสสส์ … . เดี๋ยว โง่ส์ ตื่น!!! ให้เค้าหลง ฉลาด อยู่แต่ในบ้านโยคีของเค้าไปแบบนี้แหละเหมาะกับเค้าแล้ว… . .
แล้วนายมานพ เกิดอุ่ม มามีส่วนร่วมการสร้าง องค์จตุคามรามเทพ ของเว๊บนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ทราบ??? เพี้ยนไม่พอ มั่ว ได้อีก… . .
๒ เรื่อง นี้แหละที่แสดงชี้ชัดๆๆๆให้เห้นได้เลยว่า ลุงเพี้ยนมั่ว ไม่ได้เป็นคน หูเบา อย่างที่ลุงได้มั่นใจประกาศออกมาจริงๆ. ผมเข้าใจผิดไปเอง… . หู ลุงไม่ได้เบาหรอก ไอ้ที่เบาหนะ หัวลุง ทั้งหัว เลย… . มีแต่ อากาศ ไม่มี มัน เลย… . ถ้าหัวไม่กรวง มีสติ คิดได้ ไม่รอฟังคนคลานมาป้อนข้อมูลใส่ปาก อย่างเดียว ลุงจะไป งับ เหยื่ออย่างจังนี้เข้าได้อย่างไร… . คิดสิ คิดสิ…
วันนี้เพิ่งรู้ความหมายที่แท้จริง เคยได้ยินมานานแล้วเหมือนกัน “แก่เพราะอยู่นาน” เป็นแบบนี้นี่เอง. เฮ้ออ… .
ท่านผู้อ่านทั่วไปครับ บีต้องขออภัยท่านทั้งหลายจริงๆ ที่ช่วงนี้หน้ากระดานมีแต่ข้อความที่ไม่ค่อย reader friendly(ไม่รู้จะแปลยังไง) ซักเท่าไหร่… . ใจเย็นกับพวกเรานิดนึง นะครับ.
สองปีกว่าๆมาแล้วที่พวกเราพยายามที่จะหลีกเลี่ยง การปะทะวาจา ปะทะอารมณ์ กับอีกฝ่ายนึงมาโดยตลอด… . แต่เค้าเล่นไม่เลิกจริงๆ ถูกกระทำการ แขวะ ด่ากระทบ ใส่ร้ายป้ายสี โดยไม่มีหลักฐานใดๆมาแสดงให้เห้น มาโดยตลอด… .
คุณสุวัฒน์ ก็บอกเสมอว่าไม่ต้องไปตอบโต้อะไร แค่ชี้แจงกลับไปก็พอ เป็นแบบนี้มาโดยตลอด. ท่านผู้อ่านที่ติดตามเว๊บนี้มาตั้งแต่ต้น จะพบว่าบ่อยครั้ง ถ้ามีความคิดเห้นที่อาจจะไปกระทบกับอีกฝ่ายนึง คุณสุวัฒน์จะลบความคิดเห้นนั้นออกไปเลย. คุณสุวัฒน์เองก็พยายามหลีกเลี่ยงการปะทะ.
การที่ถูกใส่ความ ใส่ร้ายป้ายสีให้เป็นที่เกลียดชังของผู้อื่น ถูกสร้างบทบริภาษ ด้วย ความเท็จ ให้… . ใครไม่โดนกับตัวเอง ไม่รู้รส หรอกครับ.
ยอมรับว่า บีเองไม่ได้เป็นคนโดน แต่ เมื่อสองปีกว่าๆที่แล้ว บีได้เห้น ผู้ชาย คนนึงที่โดนการ ฆ่าชื่อ เพื่อให้ตายจากสังคมทั้งเป็น บีได้เห้น ความเจ็บช้ำในใจ ทรมานใจ ความสับสนที่ทำไมถึงโดนกระทำถึงขนาดนี้ …. . ความเจ็บปวดทั้งหมดทั้งปวง ได้ถูก ยัด ใส่ ผู้ชาย คนนี้อย่างใจร้าย เลือดเย็น เหลือเกิน. ผู้ชาย คนนี้ต้องใช้เวลาเป็น ปีๆ กว่าจะลุกกลับยืนขึ้นมาได้ จนทุกวันนี้ ผู้ชาย คนนี้จริงๆเค้าได้ อโหสิ และ ก้าวข้าม คนที่มอบความเจ็บช้ำให้แก่เค้าไปแล้ว. แต่คนที่เคยมอบความเจ็บปวดให้เค้าก็ยังไม่หน่ำใจ หรือ อย่างไร หรือ เห้นว่าการที่ ผู้ชาย คนนี้ไม่ โต้ตอบ หลีกเลี่ยงการปะทะมาโดยตลอด ก็ย่ามใจ อยากจะสร้างความเจ็บปวดให้เค้าไม่เลิก.
ลุง ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วนะครับ ลุง…. . รับทราบแล้วครับว่ายังไง ลุง ก็จะไม่เลิก
สมาชิกเว๊บราชันดำไม่ชอบการมีเรื่องกับใครหรือฝ่ายไหนเลยจริงๆ. เราแค่อยากจะอยู่ส่วนของเรา แต่อีกฝ่ายทำไมจะต้องจ้องทำร้ายเรา ไม่ให้เรามีที่ยืน หรือ อยากยึดทั้งหมดไว้เป็นของ ลุง เอง.
ณ. เวลานี้ พวกผม จะไม่หลีกเลี่ยงการปะทะ หรือ การโต้ตอบ อีกต่อไปแล้ว. ขอแจ้งให้ทราบไว้ ณ. ที่นี้เลย. และขอรับรอง…. . พวกผมจะไม่ทำให้ ลุง ต้องผิดหว้งอย่างแน่นอน. กลับกัน ผมเองก็อยากขอให้ ลุง อย่าทำให้พวกผมผิดหวังเช่นกัน. ขอหลักฐาน เนื้อๆ เน้นๆ นั่งเทียนเขียนคนเดียวแบบที่ผ่านมาไม่เอา พวกผมหาวเบื่อกันหมดแล้ว ขอ หลักฐาน หลักพล่อย ไม่เอา นะ.
..บทความที่จะออกใหม่อีก ๒ตอน ก็ค่อยๆเขียน ค่อยๆแก้ ยังทันนะ รอได้ แต่อย่างที่เคยว่าไว้… ใส่ ๒คำ ” ความ จริง ” นี้ลงไปด้วย. อย่าต้องให้เสีย เวลา ที่คลิ๊กเข้าไปอ่าน. . โตๆกันแล้ว
25/07/2010 : 19:43:31
คุณรังสิตครับ
คงไม่ได้กินยาธาตุก่อนนอน ก็เลยฝันไปว่า คุณมานพ เกิดอุ่ม มาร่วมทำพระกับพวกเรา มีหลายคนบอกผมว่า สายตะวันออกมาช่วยจองวัตถุมงคลเพื่อให้กำลังใจพวกเรา ( ผมไม่ได้สนใจไปอ่าน มีแต่คนมาเล่าให้ฟัง )
พึ่งเคยได้ยินนี่แหละว่า มีการจองวัตถุมงคลเพื่อให้กำลังใจคนสร้าง คิดเอง เออเอง จนหลุดโลกไปแล้ว
ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็แสดงว่าพวกเราโชคดี เพราะมีคนให้กำลังใจกันทั่วประเทศ ไม่เฉพาะแต่ภาคตะวันออกเท่านั้น
คุณรังสิตพูดถูก มีคนดูดส้วมที่บ้านตัวเองมาทิ้งที่หน้าบ้านเรา
25/07/2010 : 19:51:13
ขอต่อจากคุณบี ครับ
ฆ่าตัวไม่ได้ ให้ฆ่าชื่อ ผมยังจำคำพูดนี้ของคุณบีได้อย่างแม่นยำ เป็นคำจำกัดความของจีน ที่อธิบายถึงวิธีการทำลายคนอื่น อย่างโหด***ไร้ความปราณี
คนจีน ถือเป็นสุดยอดในเรื่องของอุทธาหรณ์ หรือคำพูดสอนใจ
เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมได้อ่านหนังสือเรื่อง สามก๊ก ฉบับคนขายชาติ เป็นฉบับที่มีการวิเคราะห์อย่างละเอียด เขาบรรยายเรื่องของขันที ได้น่าสนใจไม่น้อย
เขาบอกว่า อาวุธร้ายกาจของขันที มี 5 อย่าง 1 ในนั้น คือ การใช้ปาก ( อย่าคิดมาก ) ขันทีจะมีความสามารถในการใส่ร้ายป้ายสี ขุนนาง เสนาบดี ที่มีความจงรักภักดี ซื่อสัตย์ต่อราชบัลลังก์ ไม่ว่าจะใหญ่โตแค่ไหน ได้ตายเพราะปากของขันทีมานักต่อนักแล้ว เรื่องนี้ปรากฏในประวัติศาสตร์ มาทุกยุคทุกสมัยของประเทศจีน
ในยุคปัจจุบัน การใส่ร้ายป้ายสี โจมตีเพื่อทำลายคนอื่น
เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น ก็ยังมีอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
พวกที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับ ขันที ในอดีต
– 26/07/2010 : 16:57:18
กระทู้ของคุณรังสิต
ขันที แปลว่า ผู้ชายไม่มีรังไข่ และ มีไข่ก็ไม่เหลือ
อัปเปหิ หมายถึงขับไล่ ผลักไสให้ออกไป
อัปเปหิ มาจากคำว่า อเปหิ ซึ่งแปลว่า จงออกไป จงไปให้พัน หมายถึง ผลักไล่ไสส่งไปให้พ้น
ผมได้ยินมาว่า คุณสุวัฒน์ถูกอัปเปหิ จึงอยากให้ช่วยอธิบายหน่อยครับ
27/07/2010 : 12:27:06
ความเจ็บปวดทั้งหมดทั้งปวง ได้ถูก ยัด ใส่ ผู้ชาย คนนี้อย่างใจร้าย เลือดเย็น เหลือเกิน. ผู้ชาย คนนี้ต้องใช้เวลาเป็น ปีๆ กว่าจะลุกกลับยืนขึ้นมาได้ จนทุกวันนี้ ผู้ชาย คนนี้จริงๆเค้าได้ อโหสิ และ ก้าวข้าม คนที่มอบความเจ็บช้ำให้แก่เค้าไปแล้ว”ที่เจ็บปวดมากอีกอย่างคือ คนที่เค้าให้ความเคารพนับถือเปรียบเสมือนเทพยดาฆ่าเขา
” ” เข้าใจผิดคิดว่าหลายคนเป็นคนดี
28/07/2010 : 19:22:17
คุณรังสิตครับ
คำว่าอัปเปหิ เป็นการใช้เพื่อจงใจจะให้ดูไม่ดี ในสายตาของคนทั่วไป เพราะคำนี้ ใช้กับคนไม่ดี แต่ถ้าเป็นการอัปเปหิผมออกจากะลาครอบ ก็พอยอมรับได้
โดยส่วนตัวผม เชื่อมั่นจริง ๆ เพราะมีสัญญาณหลายอย่างบ่งบอกว่าเป็นเพราะท่านพ่อต่างหาก ที่ดลบันดาล และเปิดกะลาให้ผมออกมา
และเมื่อผมออกมาแล้ว ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากวงการพระเครื่อง และวงการจตุคามภายนอก ก็เห็นอยู่ว่า ผมและพวกเรายืนหยัดอยู่ในวงการนี้อย่างมั่นคงและมีเกียรติ ผู้คนกล้าพูด กล้าคุยกับผม โดยไม่ต้องสงวนปาก สงวนคำ เหมือนกับตอนที่ผมอยู่ในกะลา
พวกเรายืนอยู่ในวงการนี้ โดยไม่อายฟ้าดิน เพราะเราไม่ได้ทำผิด ทำเลว หลอกลวงใคร ตรงกันข้าม พวกเราต่างช่วยกันประคับประคอง พวกเราต่างหาก ที่ยังซื้อไม่เลิก และก็มีบางพวกเช่นกันที่ขายไม่เลิก แล้วเที่ยวด่าคนอื่นว่าไอ้พวกพุทธพาณิชย์
ปีที่แล้ว ผมซื้อวัตถุมงคลของท่านพ่อ ไปเกือบ 5 ล้านบาท พวกเราซื้อรวม ๆ กันแล้วก็อีกหลายล้านบาท วัตถุมงคลที่อยู่ในห้องพระแถว ๆ สีลม มาอยู่ในห้องพระบ้านผมตั้งหลายองค์ แล้วแบบนี้ ผมหายไปจากวงการตั้งแต่เมื่อไร
ลงไปนคร ฯ ทีไร ก็มีแต่คนอยากเจอ ไม่เชื่อไปถามคุณจุ๋ม ท่าโพธิ์ ดูก็ได้ พอผมลงไปกับพวกเราที่ไร ก็มีโทรศัพท์หาคุณจุ๋ม ขอคิวเจอ
สองครั้งหลังที่ลงไป คือเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2553 คุณต้อมก็ได้ลูกกลม 30 มาหนึ่งองค์ คุณบี ก็ได้ลอยองค์ 32 มา 3 องค์ ผมก็ยังได้เสื้อยันต์มาหนึ่งตัว
และเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2553 ที่ผ่านมา คุณต้อมก็ได้ 30 มา 1 องค์ พระพุทธสิหิงค์ 1 องค์ ผมก็ได้ลูกกลม 30 มา 1 องค์ โดยเฉพาะของผมได้มาอย่างไม่คาดฝัน เป็นเนื้อหายากที่อยากได้ และราคาสบายใจ ที่สำคัญคือ ผมคิดว่าท่านพ่อบันดาล เพราะก่อนออกจากบ้านไปขึ้นเครื่อง ผมเข้าไปกราบท่านพ่อขอว่า ไปเที่ยวนี้ ขอให้ธุระการสร้างองค์ท่านพ่อ และมีด ผ่านไปด้วยความราบรื่น และขอให้ได้ของดีกลับมาด้วย ปรากฏว่าท่านพ่อบันดาลให้ทุกอย่าง ยังได้ของดีอย่างอื่นมาอีกเพียบ
ผมจึงเชื่อโดยสนิทใจว่า สิ่งที่คนมาข่มขู่ว่า ท่านพ่อจะลงโทษคนที่มาสร้างวัตถุมงคลท่านนั้น ไม่จริง ออกมาขู่ มาอ้างความเป็นเจ้าของ เพื่อจะหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองเพียงคนเดียว
@@@@@@@@@@@@@@
29/07/2010 : 22:38:05
ตอบกระทู้หน้า 58
การที่พวกเราถูกกล่าวหาว่าเป็นพุทธพาณิชย์ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยลงขายของเป็นเรื่องเป็นราว ทีขายก็มีรายการช่วยวัด เพียงครั้ง สองครั้งเท่านั้น
คุณรังสิต ครับ เรื่องนี้เป็นปรกติวิสัย สันดานของคน ที่พยายามด่าคนอื่น เพื่อให้ตัวเองดูดี พยายามที่จะตั้งวงการของตัวเองขึ้นมา ซึ่งก็ไม่มีใคราว่าอะไรอยู่แล้ว ถ้าทำมาค้าขายตามปกติไป
แต่นี่ เที่ยวไปด่าคนโน้น ด่าคนนี้ ด่าวงการพระที่พวกเรามีส่วนอยู่ด้วย คำหนึ่งก็ไอ้พวกพุทธพาณิชย์ สองคำก็ไอ้พวกพุทธพาณิชย์ โดยไม่ได้มองพฤติกรรมของตัวเองเลยว่า ที่ทำเวลานี้ไม่ต่างอะไรกับพวกเขา บางทียังหนักกว่าเสียอีก แบบนี้คงต้องเรียกอย่างที่คุณช้างว่า ซึ่งมองดูแล้ว น่าอนาถแท้ กลุ่มคนแบบนี้ ซึ่งก็มีไม่กี่คนหรอก พวกเราต้องอย่าไปสนใจ อย่าไปเสวนาด้วย กันออกไปจากวงการพุทธพาณิชย์ ของพวกเรา
ที่คุณช้าง กล่าวถึงเรื่อง ปัญญา เพราะมีคนปรามาสว่า คนอย่างผม จะเอาปัญญา ที่ไหนไปทำวัตถุมงคลท่านพ่อ
คุณช้าง ครับ อย่างที่คุณช้างว่าผมมีปัญญาออกแบบ จริง ๆ ผมก็ออกแบบมาหลายรุ่น ที่พูดนี่ไม่ได้แอบอ้าง อะไรทั้งสิ้น แต่กลับมีคนปัญญาดี มาสวมรอยกล่าวอ้างว่าตัวเองเป็นคนทำ อย่างนี้ มันไม่ทุเรศยิ่งกว่าคนไม่มีปัญญาหรือ
ผมยอมรับว่า ไม่มีปัญญาทำให้วัตถุมงคลของท่านพ่อ ศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่ผมออกแบบ และ สร้างได้ และขอให้คนที่ทำเป็นในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ มาทำให้ได้ โดยผมและพวกเรา ใช้จิตเจตนาดีที่จะทำบุญทำกุศล เป็นเงื่อนไขตัวตั้ง เพื่อขอความเมตตาจากองค์ท่านพ่อ มาประสิทธิ์ประสาทให้ ไม่เหมือนคนบางคนที่อ้างว่ามีปัญญา แต่ไปเอาของที่เขาทำไว้แล้ว มาผสมของใหม่เยอะ ๆ แล้วกล่าวอ้างว่าเป็นรุ่นเก่า
แบบนี้แหละครับ ท่านสาธุชน ที่เขาเรียกว่า ทำเสริม อย่างชัดเจน
แบบนี้แหละครับ ที่เขาเรียกต้มตุ๋น หลอกลวง คนที่ไม่รู้ก็ตกเป็นเหยื่อ คนรุ่นหลังต่อ ๆ ไปไม่รู้ ก็เข้าใจผิด
เป็นการทำแบบหน้าด้าน หลอกลวงซึ่ง ๆ หน้า เขาเรียกว่า ต้มตุ๋นกลางแดด
รู้ไหมครับ คนในวงการ ที่ถูกด่าว่า ไอ้พวกพุทธพาณิชย์ ไอ้พวกจัญ…. เขายังไม่ทำกันเลย
แบบนี้แหละครับ ที่ทำลายเกียรติภูมิขององค์ท่านพ่ออย่างแท้จริง
แล้วพวกที่ทำแบบนี้ เราควรจะเรียกว่าอะไรดีครับ ….คุณช้าง